หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เขาเดินเล่า เราเดินฟัง ..ณ เกาะคอเขา เราเย๊นนน เย็น !!!!....

.. บรรยากาศฝนโปรย .. ฟ้าปิด .. บนเกาะคอเขา เกิดขึ้นเป็นช่วง ๆ เนื่องจากช่วงนี้คือ "ฤดูฝน" ..
... ฝนที่นี่ตกๆ หยุดๆ เป็นระยะ .. ฟ้าปิดฟ้าเปิด ไม่บอกันล่วงหน้า .. แต่ว่าชุ่มฉ่ำ เย็นใจ

Hi !! Strangers !!
.. "เกาะคอเขา" .. เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดพังงา เป็นที่ตั้งของชุมชนโบราณ "บ้านตึก" มีหลักฐานทางโบราณคดีมากมาย ตีพิมพ์เผยแพร่เป็นเล่มๆ  ซึ่งยังปรากฏร่องรอยการตั้งเมือง เศษกระเบื้องหลังคา ถ้วยโถโอชาม จนถึงลูกปัด ที่นักสะสมต้องการ อย่างลูกปัดสุริยเทพก็พบที่นี่เช่นกัน ... ด้วยความที่ลักษณะของอ่าวที่ลมสงบ เกาะน้อยใหญ่บังลมพายุ อีกทั้งยังมีเส้นทางที่สามารถลัดเลาะไปตามคลองตะกั่วป่าออกอ่าวไทย ซึ่งช่วยย่นระยะทางการขนส่งสินค้า ที่ไม่ต้องอ้อมแหลมมาลายู ทำให้เกาะนี้เป็นชุมทางที่สำคัญ...

... เขาเล่าว่า....ด้วยความที่เกาะแห่งนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นได้มาสร้างสนามบินไว้บนเกาะแห่งนี้ ผู้เฒ่าผู้แก่แห่งเกาะเห็นการสร้างแต่ทว่าเห็นเครื่องบินเพียงลำเดียวละครั้งเดียวที่มาใช้สนามบิน เนื่องจากญี่ปุ่นแพ้สงครามเสียก่อน แผนการบุกพม่าโดยใช้สนามบินแห่งนี้จึงต้องจบลง... เวลาผ่านเนิ้นนานมา สนามบินแห่งนี้จึงกลายเป็นทุ่งปศุสัตว์ขนาดใหญ่ .. เดินย่ำหญ้าบนลานบินที่แสนจะเรียบแข็ง ..
ป่าสนที่อุดมไปด้วยหญ้าอ่อน 
... ในคราวที่เกิดสึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 เกาะคอเขาเหมือนจะเป็นหน้าด่านแห่งการกระทบคลื่น พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกน้ำเค็มท่วมถม เกิดความเสียหายเกือบทั้งเกาะ แต่สึนามิก็ยังมีส่วนดีอยู่บ้าง ที่ได้นำพาเมล็ดพืชต่างๆมาเพาะฝังบนเกาะแห่งนี้ โดยเฉพาะ "เมล็ดสน" ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่บนเกาะ เต็มไปด้วยต้นสนที่มีขนาดน้อยใหญ่ ทุ่งหญ้าถูกแซมด้วยต้นสน ยิ่งในลานบินด้วยแล้ว มีต้นสนประดิพัทธ์ขึ้นเป็นจำนวนมาก สัตว์เลี้ยงอย่างวัวควาย จึงเดินเล็มหญ้าในป่าสนราวกับกวางเรนเดียร์ ...
..ฝูงกวางเรนเดียร์ ชัดชัด..
คอกกวางมูส ท่ามกลางป่าสน
... ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของน้ำฝนและปริมาณผู้คนที่ไม่มากนัก พื้นที่ว่างต่างๆจึงยังคงมีป่าของพืชท้องถิ่นให้เห็นอย่างมากมาย เถาหม้อข้าวหม้อแกงลิงหลากพันธุ์ ขึ้นกระจายอยู่เต็มพื้นที่ ทั้งบนดินและในพงเฟิร์น  ต้นจอกบ่วาย จอกใหญ่ราวกับเหรียญสิบบาท บัวสายดอกเท่าไม้ขีด ทอดสายเต็มบึง ... นี่มันเกาะแห่งความหลากหลายชัดๆ
หม้อข้าวหม้อแกงลิง .. พืชอันดับต้นๆที่ขึ้นหลังจากสึนามิ
หม้อข้าวหม้อแกงลิงขนาดเล็ก... ติดพื้นดิน


... ผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่นี่ มีไม่มากนัก ทั้งแบบบ้านๆ และแบบไฮโซ สามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวแบบเต็มรูปแบบได้เพียงปีละ 6 เดือน คือประมาณ ปลายตุลาคม - เมษายน ผู้มาเยือนสามารถร่วมลองจับปลา หาหอยชักตีน  รุนเคย จับปลาหมึก จนถึงกระทั่ง นอนนับดาว ...
รถขายของที่วิ่งไปทั่วเกาะ
... เปิด 6 เดือน ปิด 6 เดือนแบบนี้... เกาะจึงได้มีเวลาพักผ่อน ฟื้นตัวเองให้สมบูรณ์สวยงามพร้อมอวดโฉม ในปีถัดไป...

.... เขาเล่ามาอีกเยอะแยะแต่อิฉันจำไม่ไหว ... เดี๋ยวกลับไปฟังเขาเล่าใหม่ แล้วจะมาเล่าให้ฟังต่อนะ ...

เส้นทางสีเขียว ทั่วทั้งเกาะ
























ลิงหม้อใหญ่.


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น